เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์
ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กัน
เช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่ายสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว
ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอำนาจ(สหรัฐอเมริกา)
กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นได้เกิดแนวคิดที่ต้องการ
ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยคอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทำงานได้
ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุธ
นิวเคลียร เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง อาจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วน
ถูกทำลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย
และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency)
และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต” (Internet)
ในปัจจุบัน
การใช้อินเทอร์เน็ตนั้น จะมีประโยชน์หรือโทษ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานเอง เนื่องจากอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ศึกษาได้ทุก ๆ เรื่อง ขึ้นอยู่กับผู้จะขอใช้บริการอะไร ซึ่งมีลักษณะการใช้งานต่าง ๆ ดังนี้
1. การค้นหาข้อมูล
เราสามารถค้นหาข้อมูลและสิ่งที่ต้องการอยากรู้ได้ โดยการค้นหาจากเว็บไซด์ต่าง ๆ
บนอินเทอร์เน็ต World Wide Web หรือ WWW. เป็นบริหารข้อมูลแบบต่าง ๆ ซึ่งมีการ เชื่อมโยงถึงกันได้ ตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลด้วย Google จาก www.google.co.th
2. เพื่อการศึกษา
การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ปัจจุบันมีเว็บที่บริการเรียนออนไลน์มากมาย
หลากหลายวิชา มีทั้งแบบข้อความเพื่ออ่าน ภาพประกอบ เสียงบรรยาย หรือวีดีโอสอนก็มี
3. เพื่อความบันเทิงและข่าวสาร
นอกจากที่กล่าวมาเรายังสามารถดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือพิมพ์ นิตยาสาร เพื่อให้มีความรู้เพิ่มเติมได้ ดังตัวอย่างนี้
4. เพื่อการสนทนาหรือจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ เราสามารถติดต่อกันได้โดยการสนทนา
ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น การสนทนาด้วยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบ หรือการสนทนาผ่านระบบเสียง
การใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์และ อื่น ๆ ดังตัวอย่างนี้
5. เพื่องานธุรกิจ
นอกจากที่ได้กล่าวมา เรายังสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่องานธุรกิจได้ เช่น ซื้อขายสินค้า
ออนไลน์ การทำงานเกี่ยวกับการเงิน เช่น โอนเงินระหว่างธนาคารและอื่น ๆ อีกมากมาย
ประเภทโปรแกรมที่ใช้กับอินเทอร์เน็ต
1. โปรแกรมประเภทบราวเซอร์
โปรแกรมประเภทนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับท่องเว็บไปยังเว็บไซด์ต่าง ๆ ที่ต้องการ โดยปกติแล้วเราจะคุ้นเคยกับโปรแกรมที่มีชื่อว่า Internet Explorer ที่มาพร้อมกับวินโดว์ แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ และปัจจุบันมีการพัฒนาทำให้สามารถใช้คำสั่งเป็นภาษาไทยได้
โปรแกรมประเภทนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับท่องเว็บไปยังเว็บไซด์ต่าง ๆ ที่ต้องการ โดยปกติแล้วเราจะคุ้นเคยกับโปรแกรมที่มีชื่อว่า Internet Explorer ที่มาพร้อมกับวินโดว์ แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ และปัจจุบันมีการพัฒนาทำให้สามารถใช้คำสั่งเป็นภาษาไทยได้
2. โปรแกรมประเภทสร้างเว็บเพจ
โปรแกรมประเภทนี้เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างหน้าเว็บเพจที่เราใช้เข้าไปดู ซึ่งโปรแกรมประเภทนี้มีอยู่มากมายหลายโปรแกรม ที่โครงสร้างหลักแล้ว Web ส่วนใหญ่ใช้โครงสร้างภาษา HTML ตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บ เช่น โปรแกรม PHP โปรแกรม JAVA และอื่น ๆ แต่เรามาดูโปรแกรมที่คุยเคยกันดีกว่านั้นคือโปรแกรม Word ก็สามารถสร้างเว็บได้
โปรแกรมประเภทนี้เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างหน้าเว็บเพจที่เราใช้เข้าไปดู ซึ่งโปรแกรมประเภทนี้มีอยู่มากมายหลายโปรแกรม ที่โครงสร้างหลักแล้ว Web ส่วนใหญ่ใช้โครงสร้างภาษา HTML ตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บ เช่น โปรแกรม PHP โปรแกรม JAVA และอื่น ๆ แต่เรามาดูโปรแกรมที่คุยเคยกันดีกว่านั้นคือโปรแกรม Word ก็สามารถสร้างเว็บได้
3. โปรแกรมประเภทสนทนา
สำหรับโปรแกรมประเภทนี้ เป็นโปรแกรมที่ใช้ติดต่อหรือสารระหว่างกันซึ่งอาจติดต่อด้วยการพิมพ์ผ่านทางแป้นพิมพ์ การคุยผ่านไมโครโฟน และผ่านกล้องวีดีโอ ซึ่งทำให้เห็นทั้งภาพและเสียงขณะที่คุยกัน มีโปรแกรมหลายประเภทที่ใช้เกี่ยวกับการสนทนา แต่ Windows ก็มีโปรแกรมที่เรียกว่า NetMeeting
สำหรับโปรแกรมประเภทนี้ เป็นโปรแกรมที่ใช้ติดต่อหรือสารระหว่างกันซึ่งอาจติดต่อด้วยการพิมพ์ผ่านทางแป้นพิมพ์ การคุยผ่านไมโครโฟน และผ่านกล้องวีดีโอ ซึ่งทำให้เห็นทั้งภาพและเสียงขณะที่คุยกัน มีโปรแกรมหลายประเภทที่ใช้เกี่ยวกับการสนทนา แต่ Windows ก็มีโปรแกรมที่เรียกว่า NetMeeting
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น